มีรายงานว่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ตั้งราคา จู๊ด เบลลิ่งแฮม ไว้สูงมาก ทั้งนี้เนื่องจากกองกลางตัวเก่งของพวกเขามีข่าวเชื่อมโยงอย่างหนักกับสองสโมสรอย่างลิเวอร์พูล และ เรอัล มาดริด ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาแล้ว
เบลลิ่งแฮม วัย 19 ปีเป็นมิดฟิลด์ตัวสำคัญของดอร์ทมุนด์มาตลอดนับตั้งแต่ที่เขาย้ายมาจากเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ในช่วงฤดูร้อนปี 2020 จนถึงตอนนี้เขายิงไปแล้ว 19 ประตูและทำอีก 21 แอสซิสต์จากทั้งหมด 112 เกมในเวทีบุนเดสลีกา กองกลางรายนี้โดดเด่นจากการเล่นแบบ box-to-box รวมไปถึงทักษะการจ่ายบอลและการเลี้ยงบอล และเมื่อเร็วๆ นี้เขาถูกจับตามองมากยิ่งขึ้นหลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับทีมชาติอังกฤษในศึกฟุตบอลโลกที่ผ่านมา ซึ่งเขายิงได้หนึ่งประตูและทำอีกหนึ่งแอสซิสต์จากห้าเกม
จากการรายงานล่าสุดของ BILD ดอร์ทมุนด์เตรียมพร้อมที่จะรับข้อเสนอสำหรับเบลลิ่งแฮมในราคาที่ไม่น้อยกว่า 132 ล้านปอนด์ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้ ซึ่งการตั้งราคาดังกล่าวมันหมายถึงการที่ดอร์ทมุนด์จะไม่ยอมให้มีทีมไหนเข้ามาแย่งกองกลางตัวเก่งของพวกเขาไป นักข่าวของ CBS อย่าง Ben Jacobs ได้ให้สัมภาษณ์กับGive Me Sport โดยอ้างว่าตอนนี้ลิเวอร์พูลมีโอกาสดีกว่าเรอัลมาดริดในการแย่งชิงตัวจู๊ด เบลลิ่งแฮม เขาพูดว่า “ในตอนนี้ผมคิดว่าลิเวอร์พูลมีโอกาสที่ดีกว่า เรอัล มาดริดก็ทำงานหนักเช่นกัน และทั้งสองสโมสรก็ดูมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก แต่ความแตกต่างระหว่างทั้งสองคือการที่ลิเวอร์พูลพร้อมที่จะจ่ายมากกว่ามาดริดอยู่เล็กน้อย” ทั้งนี้ จู๊ด เบลลิ่งแฮม มีสัญญาจนถึงเดือนมิถุนายน 2025 ในถิ่นซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ในฤดูกาลนี้เขายังคงระเบิดฟอร์มกับทีมได้อย่างต่อเนื่องโดยยิงไปแล้ว 9 ประตูและทำอีก 2 แอสซิสต์จาก 22 นัดจนถึงตอนนี้
เบนฟิก้า ได้รับข้อเสนอจากทั้งลิเวอร์พูลและเรอัลมาดริดในการคว้าตัว เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ
จากรายงานของA Bola ระบุว่าเบนฟิก้าได้รับข้อเสนอจำนวน 112 ล้านปอนด์เพื่อแลกตัว เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ซึ่งตอนนี้นักเตะมีข่าวกับทั้งลิเวอร์พูล, เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเรอัล มาดริด เฟร์นานเดซ วัย 21 ปี กลายเป็นหนึ่งในนักเตะพรสวรรค์ที่น่าจับตามองโดยเฉพาะในช่วงฟุตบอลโลกที่ผ่านมา และนับตั้งแต่ย้ายมาจากริเวอร์เพลทด้วยค่าตัว 9 ล้านปอนด์เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เขายิงให้ทีมไปแล้ว 3 ประตูและทำอีก 5 แอสซิสต์จาก 24 เกมให้กับเบนฟิก้า ในขณะเดียวกันเฟร์นันเดซก็มีส่วนสำคัญในการพาทีมชาติอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก เขายิงได้หนึ่งประตูและจ่ายอีกหนึ่งแอสซิสต์จากการลงสนาม 7 นัด ซึ่งฟอร์มเหล่านี้เองทำให้เขาคว้ารางวัล Young Player of the Tournament ไปครองหลังจากจบทัวร์นาเม้นต์