ลิโอเนล เมสซี จะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมที่อาร์เจนตินาพบกับฝรั่งเศสในศึกฟุตบอลโลก 2022 นัดชิงชนะเลิศคืนวันนี้อย่างแน่นอน
แชมป์โคปาอเมริกาคว้าชัยชนะ 3-0 เหนือโครเอเชียในรอบรองชนะเลิศเพื่อจองตั๋วเข้ามาเล่นยังนัดชิงชนะเลิศนี้ โดยกัปตันทีมอย่างเมสซี่มีบทบาทสำคัญในการที่ทีมสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก โดยที่เกมล่าสุดเมสซี่ยิงได้ 1 ประตูในเกมที่เอาชนะโครเอเชีย โดยแผนการของลิโอเนล สกาโลนี ผู้จัดการทีมชาติอาร์เจนติน่าได้ส่งเมสซี่ลงเล่นในแดนหน้าพร้อมกับคู่หูอย่าง จูเลียน อัลวาเรซ กองหน้าจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งอัลวาเรซก็ยิงได้สองประตูในเกมนั้นเช่นกันเนื่องจากเกมนี้ในแผงเกมรุกของทีมไม่มีนักเตะได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นสคาโลนีน่าจะไม่มีเหตุผลใดที่จะเปลี่ยนสูตรเกมรุกในเกมนัดชิงชนะเลิศ ดังนั้นอัลวาเรซจึงเป็นตัวเต็งที่จะได้ลงทำหน้าที่ร่วมกับเมสซี่ในแดนหน้าต่อไป แต่อย่างไรก็ตามทัพอาร์เจนไตน์ยังมีตัวเลือกแนวรุกอื่นๆ ที่พร้อมสับเปลี่ยนลงสนาม ทั้งอังเคล ดิ มาเรีย, เลาตาโร มาร์ติเนซ และเปาโล ดีบาลา ในขณะเดียวกัน ตามรายงานของ The Mirror ได้ระบุว่าเมสซี่ไม่ได้ลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่ก็มีข่าวออกมาเพิ่มเติมว่าทั้งเมสซี่และเหล่าแข้งอื่นๆที่ลงเป็นตัวจริงในเกมกับโครเอเชียได้เวลาพักเพิ่มหนึ่งวันเพื่อพักฟื้นจากเกมรอบรองชนะเลิศ และเมสซี่เองก็ไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอย่างแน่นอน
คืนนี้อาร์เจนตินาจะพบกับฝรั่งเศสในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 แชมป์เก่าคว้าชัยชนะเหนือโมร็อกโก 2-0 ในรอบรองชนะเลิศ และตอนนี้พวกเขากำลังมุ่งมั่นที่จะเป็นชาติแรกนับตั้งแต่บราซิลที่สามารถป้องกันแชมป์โลกได้ในปี 1962 เมสซีจะพบกับเพื่อนร่วมทีมเปแอสเชอย่าง คีเลี่ยน เอ็มปัปเป้ นอกจากนี้กองหน้าทั้งสองก็ต้องต่อสู้กันในการคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดเนื่องจากทั้งคู่ยิงได้เท่ากันที่ 5 ประตู สำหรับสถิติการเจอกันของทั้งคู่ก่อนหน้านี้ ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 ฝรั่งเศสเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะเหนืออาร์เจนติน่าได้ 4-3 และเอ็มปัปเป้ยิงได้สองประตูในเกมนั้น
ลิโอเนล เมสซี จะลงแข่งขันในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกครั้งที่สอง
การแข่งขันฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศคืนวันนี้อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของลิโอเนล เมสซี่ ในการคว้าแชมป์ที่ใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอลกับทีมชาติอาร์เจนตินา ผู้ชนะรางวัลบัลลงดอร์เจ็ดสมัยจะได้ลงเล่นในเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่สองโดยก่อนหน้านี้เขาเคยพาอาร์เจนติน่าเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกในปี 2014มาแล้ว อย่างไรก็ตามในครั้งนั้นพวกเขาพ่ายต่อเยอรมัน 1-0 โดยมาริโอ เกิทเซ่ทำประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ